ไม่ได้เล่นคำเอาสละสวยครับ ..ไม่ใช่หลงไหล-หลงเสน่ห์นะ ..แต่หลง ..หลงทางจริงๆ
จริงๆดองเรื่องนี้ไว้นานมากๆ ..เราเริ่มต้นทริปใหม่กันหลังจากไปหัวหินได้สองเดือนเพราะเริ่มติดใจการเที่ยวต่างจังหวัดแบบไปตายเอาดาบหน้า ..สบายๆและสนุกไว้ก่อน
สรุปว่าเอากันที่ใกล้ๆหน่อยแล้วกันแบบเช้าไปเย็นกลับเพราะว่าสมาชิกเราค้างคืนไม่ได้ มาลงตัวที่ตลาดน้ำอัมพวานี่แหละ
อัมพวาไม่ไกลจากกรุงเทพฯเลยจริงๆ สมุทรสงครามดูจากแผนที่กางนิ้วแค่ครึ่งคืบก็ถึง ผมเคยไปเองครั้งนึง คือนั่งรถตู้ไป ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆ (ไม่ถึงสองชั่วโมง) ต่อรถอีกนิดก็ถึงแล้ว
…เราเริ่มต้นกันเหมือนเดิม สตาร์มรวมพลคนครบที่เดอะมอลล์ท่าพระ (ทำไมวะ) ..แต่ว่าเดอะมอลล์ท่าพระก็สะดวกดีเพราะเป็นทางออกไปเส้นที่จะไปสมุทรสงครามได้
อาจเป็นเพราะระยะทางดูใกล้เราเลยประมาท ไกด์ของเรา (ผู้ที่เหมือนจะรู้เส้นทางมากที่สุด) พาเราวนอยู่ฝั่งธนฯราว 2 รอบครึ่งก่อนออกพ้นกรุงเทพฯได้
อันนี้ไม่ใช่ไฮไลท์ ..ขอเชิญอ่านกันต่อไป
ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงสมุทรสงครามจริงๆ แล้วเราหิวมากกว่าอยากเดินตลาดนั้น มาเจอกับร้านอาหารเรียบคลองบรรยากาศดีๆ ก็เลยแวะกันก่อน

ถึงเวลาไปอัมพวาได้.. (รูปน้อยครับ ขออภัย อาหารอร่อยและสดดี เว้นแต่กุ้งแช่น้ำปลา ..เค็มชิบเป๋ง!!)
การหาที่จอดรถนั้นก็แสนยากเย็นเพราะคนเมืองส่วนใหญ่ก็อยากขับรถมาเสพบรรยากาศชานเมือง (เกิดเป็นมนุษย์ในตัวเมืองนี่น่าสงสารมากครับ ..ผมก็ด้วย) ..บริการหาที่จอดรถในท้องถิ่นนั้นถือเป็นธุรกิจที่น่าจะทำรายได้ดีไม่น้อยทีเดียว
ดูรูปที่อัมพวากันดีกว่า





ร้านมีมีอะไรเจ๋งดีแหะ
เดินชิลๆดื่มด่ำกันไปเรื่อยๆริมคลองสักพักยังไม่ทันเมื่อย ก็ไปเจ๊อะกับกองถ่ายทำรายการ “ลุยไม่รู้โรย” (เป็นรายการเกี่ยวกับชีวิตน่ะ บอกตรงๆว่าไม่เคยได้ยินชื่อรายการนี้มาก่อนเลยว่ะ ..กองถ่ายเค้าบอกอยู่ช่อง ThaiPBS)
คนถ่ายเค้าถามว่าอยากขึ้นเรือมั๊ย ..เรื่องของเรื่องคืออยากให้เราเป็นตัวประกอบรายการนิดนึง ..พวกเราเหรอหรากันพักใหญ่ แต่พอเค้าบอกฟรี เราก็คิดอีกครึ่งวินาทีก่อนบอกว่า ..ไปครับ/ค่ะ!!




ลุยไม่รู้โรย : ลุงตี๋ เรือแจวแห่งความสุข (29 ก.ย. 54)
http://www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=309269&content_category_id=1071
รายการก็ถ่ายทำกันไป เราก็นั่งชิลกันไป ก็มีบอกบทกันนิดหน่อยตามประสาเพื่อการถ่ายทำรายการ ราวครึ่งชั่วโมงเราก็มาอยู่บนบกอีกครั้ง พร้อมกันขอบคุณคุณลุงเค้าไป ..คุณลุงทำให้ทริปผมสนุก มีสีสัน และชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย ขอบคุณครับ
..ช่วงหลังของทริปรวมเวลาเดินชิล นั่งกินนู้นนี่นั่น ซื้อของฝาก อีกเกือบสามชั่วโมง ก็ได้เวลากลับ
..เหมือนเราเดินทางไปไหนฝนก็ติดตามเรามาด้วย เปียกปอนกันคนละนิดละหน่อยกว่าจะกลับมาขึ้นรถได้ ประมาณเกือบสองทุ่ม เรากะว่าน่าจะถึงกรุงเทพฯราวสามทุ่มครึ่งถึงสี่ทุ่มก็กำลังเหมาะ
วินาทีความสนุกเริ่มแล้ว..
โอ้ฟ้าฝนช่างไม่เห็นใจเลย ..หลังจากขึ้นรถฝนก็กระหน่ำลงมาจนไฟหน้าของรถเหมือนจะไร้ประโยชน์ มองเห็นในระยะ ไม่เกิน 10-15 เมตร เส้นทางขามาซึ่งเราควรจะจำได้กลับถูกสายฝนกลบจนสิ้น
เราเริ่ม ..มั่ว เพราะมองป้ายไม่ค่อยเห็น เลี้ยวตรงนู้นตรงนี้ด้วยความรู้สึก “มั้ง” เพราะไม่แน่ใจ แต่ก็พยายามเกาะป้ายที่วิ่งเข้ากรุงเทพฯ
หลายนาทีต่อมามันชักยังไงๆ ..จากสมุทรสงครามจะกลับบ้านที่กรุงเทพฯ แต่มองป้ายอีกทีนี่มันราชบุรีซะงั้น ..แต่ตอนนี้เราไม่อยากแวะฟาร์มแกะน่ะสิ ..เราอยากกลับบ้านและเราก็เริ่มหิว
เรามีที่พึ่งพาตอนสมัยไปเที่ยวหัวหิว คือโปรแกรมนำทางบนมือถือ ..พาเรากลับบ้านทีเถอะ
กดสองสามจึ้กเส้นทางโผล่มาบนหน้าจอ เราไม่รอช้ารีบขับตามเพราะอยากถึงบ้านไวๆ แม้เราจะเห็นป้ายเข้ากรุงเทพฯบนทางหลวงแต่โปรแกรมมันก็ให้เราเลี้ยวไปอีกที่ ..เราไม่อยากขัดใจเพราะคิดว่ามันคงพาเราไปถูกแน่นอน
โปรแกรมนำทางก็ทำงานอย่างซื่อสัตย์!! ..ทางที่สั้นสุดของมัน (Shortest) คงสั้นสุดจริงๆ เว้นแต่ว่า มันไม่ใช่ทางหลวง!! มันพาเราลัดเลาะถนนเลนคู่เปลี่ยวๆ มีไฟส่องทางห่างๆ และรถขับผ่านนานๆที
ขับได้ไม่เกิน 5 กิโลเมตร คนขับรถเราเริ่มขวัญเสีย เบี่ยงรถหาบ้านที่ใกล้ที่สุด ..และพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่า “คน”
ชาวบ้านแถบนั้นบอกให้เราขับย้อนกลับไปอีกทาง ตามทางหลวงเกาะป้ายกรุงเทพฯ
ชั่วโมงต่อมา เราเห็นแสงไฟของเมืองหลวงและอุ่นใจอย่างที่สุด ..ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ..อย่างปลอดภัย
เราสนุกกับทริประยะสั้นๆในหนึ่งวันนี้ แต่ก็เข็ดกับโปรแกรมนำทางกันอีกนาน!!