จริงๆคือบริษัทส่งมาทำงานที่นอร์เวย์-โปแลนด์ แต่ให้พูดกันตรงๆคือการมาเที่ยวยุโรปนี่ค่าใช้จ่ายมันก็ไม่น้อย ไหนๆ ได้มาและบริษัทก็ซับพอร์ทค่าใช้จ่ายในการเดินทางบางส่วนแล้ว ก็ใช้โอกาสนี่เที่ยวซะด้วยเลย จริงเราต้องเริ่มงานประมาณอาทิตย์หน้า แต่ลาพักร้อนล่วงหน้ามาเที่ยวสวีเดนก่อน 3 วัน (รวมเสาร์-อาทิตย์ด้วยก็ 5 วัน) ด้วยหลายๆเหตุผล
ตามจริงๆ คนทั่วไป เค้าจะทำงานที่เป็นธุระหลักให้จบก่อน แล้วเสร็จแล้วค่อยเที่ยวหรือไปทำอะไรได้อย่างสบายใจ แต่ด้วยความไม่ลงตัวของแพลน กลายเป็นว่าเราเลยฉายเดี่ยว มาคนเดียวแล้วค่อยไปเจอโต้งที่นอร์เวย์
ที่พักร้อนมาเที่ยวก่อน เพราะนี่คือครั้งแรกที่มาเที่ยวไกล-ข้ามไทม์โซนเยอะขนาดนี้ ไม่เคยรู้ว่าอาการเจ็ทแล็คเป็นยังไง จะเป็นมั๊ย เลยเผื่อเวลาไว้ ไม่อยากมาถึงแล้วป่วยๆแล้วก็ไปทำงานเลย (สวีเดน-นอร์เวย์-โปรแลนด์ เวลาตามหลังไทย 6 ชั่วโมง) ไหนจะสภาพอากาศที่เช็คล่วงหน้ามาแล้วว่าเข้าขั้นหนาว เสื้อผ้านี่ขอบอกเลยว่าซื้อใหม่เกือบทั้งหมด
ส่วนเหตุผลที่เลือกสวีเดน ..เมื่อเปิดแผนที่+ปรึกษาพี่แอนแล้ว สวีเดน เดนมาร์ก-นอร์เวย์อยู่ใกล้ๆ กัน จริงๆ อยากเที่ยวให้ครบ แต่งบประมาณมีจำกัด (บทจะไปต่างประเทศปีนี้ก็ไปซะรัวๆ / ฮ่องกงยังไม่ได้เขียนบลอคเลย) เมื่อเลือกระหว่างโคเปนเฮเก้น กับ สต็อคโฮล์ม แล้ว เราโอเคกับสต็อคโฮล์มมากกว่า หลายๆ อย่างในสวีเดนที่เราอยากไปดูเพราะหลายๆ แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมีต้นกำเนิดที่นี่ เช่น H & M, IKEA, Electrolux, Ericsson, Volvo ..คือรู้สึกว่าเป็นประเทศที่เจ๋งว่ะ
เส้นทางการบินคือไปต่อเครื่องที่ดูไบ (จริงๆบริษัทซัพพอร์ทค่าตั๋วเครื่องบินแบบบินตรง แต่เวลาของ Emirates มันลงตัวกว่า เวลาต่อเครื่องก็ไม่นานมากด้วย) ขาไปจากกรุงเทพฯ นี่แม่งว้าเหว่มาก ทั้งเคบินโซนที่เรานั่ง มีแต่เราคนเดียว!! พนักงานเดินมาแซว ..หลับรวมๆ กันน่าจะแค่ 4-5 ชั่วโมงได้ อ้ออาหารก็อร่อยดี กินเต็มที่มาก หลังๆ กินไม่หมดแล้ว อิ่มเกิน อยู่แต่บนเครื่อง
ถึงสนามบินอาร์ลันดา สต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดนหลังเที่ยงนิดหน่อย เหตุผลที่เลือกเวลานี้เพราะจะได้เข้าโฮสเทลไปเก็บของเลย แล้วค่อยเดินออกมาเที่ยว ..หลังออกมานอกอาคารไม่ทันไร ก็เจอหิมะตกเลย ..หิมะแรกในชีวิต ..คือ พูดไงดีวะ ก็ตื่นเต้น เพราะอยู่เมืองไทยเราไม่มี แต่ก็เฉยๆ ไม่ได้กรี๊ดๆ หรืออยากจะลงไปนอนให้หิมะตกใส่ตัว ..หิมะนี่แม่งเย็นดี เวลามันปลิวมากระทบริมฝีปากนี่สะดุ้งได้เบาๆ ฝรั่งหลายคนบอกไม่ชอบหิมะ คือมันซอฟต์กว่าฝนบ้านเรานะ แต่หิมะมันก็เกร็ดน้ำแข็งไง เวลาตกใส่ตัวเราแปบๆ มันก็ละลายแล้ว แม่งก็น้ำดีๆ นี่เอง ..เดินเปียกไปจนถึงโฮสเทล


เก็บข้าวเก็บของ จัดกระเป๋า สะพายเป้ แวะเข้าไปเยี่ยมออฟฟิศสาขาสวีเดนหน่อยนึง เพิ่งรู้ว่าเป็นเวอร์ชวลออฟฟิศ แล้วเค้าห้ามถ่ายรูปเลยไม่ได้ถ่ายมา เค้าไปเจอเคาท์เตอร์บอกว่ามาติดต่อเว็บออน สักพักเค้าก็เดินออกมารับเรา คนที่นั่นงงว่าเอ็งเป็นใคร ไม่ได้นัด แถมไม่ได้เคยทำงานด้วยกัน แต่เค้าก็คุยต้อนรับเราดี
วันแรกแค่เดินไปเรื่อยเปื่อย ตั๋วสำหรับเดินทางในเมืองก็ไม่ได้ซื้อ
เรื่องสำคัญกว่าการเที่ยว อันดับแรกคือต้องรอดไปจนกว่าจะเจอโต้งที่นอร์เวย์ สิ่งน่ากังวลสุดสำหรับเราคือปากท้อง มื้อเย็นวันแรก ..ซื้อกินเอา 7-11 ..ไม่ใช่อะไรหรอก รู้อยู่แล้วว่าน้ำดื่มที่ต่างประเทศแพงมาก แต่ดันลืมเอาขวดเปล่ามา เลยซื้อซะที่ 7-11 นี่แหละ เห็นน้ำใสๆ กินเข้าไปเป็นโซดา
เช้าวันที่สอง — ฝากท้องไว้กับร้าน Mellqvist Café & Bar ร้านเล็กๆ


แพลนเที่ยวครั้งนี่ อย่าเรียกว่าแพลนเลย ห่า!! ไม่มีเหี้ยไรสักอย่าง!! ตารางเวลาอะไรนี่ลืมไปได้เลย แต่ Star ที่ที่อยากไปใน Google Maps ไว้ แค่นั้น แผนที่ก็โหลดออฟไลน์ไว้บางส่วน (โหลด Here มาแต่แทบไม่ได้ใช้) ..ส่วนเน็ต ..ก็ใช้ AIS SIM2Fly ที่ใช้ตอนไปเที่ยวฮ่องกงมา เติมเงิน สมัครแพ็คเกจก็ใช้ได้เลย (ความเร็วสูงสุด 100 MB หลังจากนั้นใช้ได้ที่ 64 Kbps ใช้ได้ 7 วัน หลังเน็ตหมดนี่นรกมาก ใช้ดูแผนที่พอได้ แต่รอนานเหมือนสมัยใช้ 2G)

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่น่าจะพลาดสำหรับสต็อคโฮล์ม คือ กัมลาสตาน (Gamla Stan) คือมันใกล้มาก ขนาดพื้นที่ไม่เล็ก และมีสิ่งก่อสร้างที่มีกลิ่นอายสมัยเก่าอยู่ (ฟังเค้าเล่าๆ มา)
ไม่รู้จะเล่าตรงไหนต่อ เอารูปไปรัวๆ










เก็บตกเรื่องเล็กเรื่องน้อยที่ได้เปิดหูเปิดตาที่สวีเดน
- พฤศจิกายน 2016 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 4 บาทต่อ 1 SEK
- แลกเงินสดไปพอสมควร แต่เอาจริงๆ แทบทุกร้าน (ร้านเล็กๆข้างทาง ร้านของฝาก) ก็จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ วิธีใช้ก็ง่ายดาย เราเป็นคนสอดบัตรเอง กดเอง พนักงานแทบไม่แตะบัตรเรา
- คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้เกือบหมด ฟังง่ายด้วย แม้ว่าเจอหน้าเราเค้าจะ ไฮ! (สวัสดี ภาษาสวีเดนก่อน) แต่พอเราทำหน้างงๆ อ้อมแอ้มว่าซอรี่ เค้าจะเปลี่ยนมาพูดภาษาอังกฤษทันที
- ตึกรามบ้านช่องที่นั่น คนที่นั่นคงเฉยๆ แต่ที่เราเห็นว่ามันสวยเพราะมันมีสีไง บ้านเราถ้าไม่ใช่กระจกก็คอนกรีตสีเทาๆ ของเค้ามีแดง-เหลือง-เขียว-ฟ้า
- ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้าหนาวรึเปล่านะ แต่มืดเร็วมาก 5 โมงเย็นก็แทบจะมืดสนิทแล้ว เวลาเลยเหมือนมีน้อย พอมืดๆ เค้าก็รู้สึกไม่ใช่เวลาจะไปเดินดูนั่นดูนี่แล้ว ..แต่มืดๆ แบบนี้ พอเค้าเปิดไฟ มันก็สวยไปอีกแบบนะ
- อาหารการกิน ก็แพงอยู่ แต่ก็ทำใจคือเค้ากินแบบนี้คือราคาปกติบ้านเค้าน่ะ
- หมวกไหมพรม ถุงมือช่วยได้เยอะมาก ..ถอดถุงมือแปบเดียวเย็นจนมือชา แดงเลย
จบแล้ว ..สองวันกว่าๆ ที่สต็อคโฮล์ม เหมือนไม่ค่อยได้อะไร ..น้องที่ออฟฟิศ (แคท) ถามว่าได้ถ่ายแลนด์มาร์คของสวีเดนมามั๊ย ..เออ นั่นสิ!! มันคืออะไรวะ!?
