Gardens by the Bay บ่ายแก่ๆ แสดงแดดกำลังสวย มาแล้วก็ไม่อยากงกก็เสียเงินขึ้น OCBC Skyway ทางเดินลอยฟ้าระหว่าง Supertree Grove ซะหน่อย เห็นวิวเมืองมุมสูงได้ไกลดี
ออกจาก Gardens by the Bay ก็หาทางไปดู Merlion พ่นน้ำที่อยู่ Marina Bay ต่อ ซึ่งจริงๆ นั่งรถเมล์น่าอาจจะสะดวกกว่า แต่ไอ้หม่อนมันหาทางออกจากสวนไม่เจอเดินวนออกอีกทีจะถึง Marina Bay แล้ว

หลังดูการแสดงไฟริมน้ำก็กลับที่พัก หมดวันแรก
วันที่สองไม่มีแพลนอะไรมากนอกจากนั่งรถราง Sentosa Express ข้ามไปฝั่ง Sentosa แล้วเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น กิจกรรมที่เล่นก็มี Skyline Luge อธิบายง่ายๆ ก็ถือรถที่ไถลลงมาจากภูเขานั่นแหละ (เทียบได้กับล้อเลื่อนไม้ ที่ม่อนแจ่ม) แวะเข้าร้านค้าที่ Sentosa ได้ของที่ระลึกของสิงคโปร์ให้ตัวเองด้วย



อากาศที่สิงคโปร์นี่ค่อนข้างร้อนชื้นเหมือนบ้านเรา แต่อุณหภูมิอาจจะสูงกว่าหน่อยๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรา สำหรับเรา เราโอเคนะ ทนร้อนได้ ไม่ค่อยชอบหนาวๆ ช่วงบ่ายๆของวันที่สองนี้ฟ้าครึ้ม ลุ้นว่าฝนจะตกมั๊ยแล้วฝนก็ตกจริงๆ

พอฝนตกเท่านั้นแหละ ผู้คนต่างพากันหาทางกลับฝั่ง น่าจะเพราะเล่นอะไรไม่ค่อยได้ ไม่สนุกแล้ว รถรางคิวยาวมาก จนเราตัดสินใจเดินดีกว่า ..เอาจริงๆ คือมันมีทางเดินนะ แต่ดูเหมือนว่าจะฟรีแค่ช่วงเวลานี้ (ไม่แน่ใจว่าถึงสิ้นปีรึเปล่า) ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่ไกลมาก และทางเดินก็ร่มรื่นดี ดูวิวไปเรื่อยๆ
โทรศัพท์ใช้งานได้แล้ว วิกกี้โทรมาถามว่าจะไปกินข้าวด้วยกันมั๊ย ซึ่งแพลนเราก็ไม่ได้มีอะไรต้องทำต่อ (เขินว่ะ เรียกแพลนทั้งๆที่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย)

วิกกี้มากับเพื่อนอีกคน เราไปกินร้านอาหารจีน ที่จำชื่อไม่ได้ (และไม่ได้สนใจจะเช็คอินอะไร) ก็กินไปอย่างเดียว อาหารที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ทำให้เราติดใจเท่า “Barley” สีขาวๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) ที่มีขายกับแทบทุกร้าน วิกกี้บอกเหมือนน้ำลูกเดือย เป็นที่น่าเสียดายว่า เราไม่เห็นแบบกล่องขายที่ไหน ไม่งั้นจะซื้อกลับมา
วิกกี้แล้วเพื่อนมาทำงานที่นี่ได้หลายเดือนแล้ว คุ้นชินกับพื้นทีและวัฒนธรรมที่นี่ไปแล้ว เช่น ผ้าเย็นถ้าไม่ใช้ก็วางไว้ คืนได้ (ไม่ฟรีนะ ใช้ก็คิดเงิน ..ถ้าไม่ใช้ก็วางไว้อย่างนั้นแหละ)
หลังกินเสร็จเพื่อนวิกกี้แนะนำว่า มีจึดนึงในย่านไชน่าทาวน์ คนชอบขึ้นไปถ่ายรูปวิวดี ..ตานนั้นครับ แพลนไม่มี จะไปไหนก็ได้
เออ วิวดี มีความแนวดี
พวกแราแยกย้ายกันตอนค่ำๆ เพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงานของวิกกี้แล้ว (เราอยู่เที่ยวต่อ)
ค่ำวันที่สอง จริงๆ มีถนนที่เค้าเพ้นท์ภาพอาร์ตกัน ก็เลยออกเดินไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ จนดึก เราพบว่าถนนมันไม่เปลี่ยวนะ ถนนหนทางไฟสว่างตลอด